ในการส่งแอปขึ้น Google Play หรือ Android App Store บางแห่งจะต้องใช้เป็นไฟล์​ AAB หรือที่เรียกกันว่า Android App Bundle แทน ไม่สามารถใช้เป็นไฟล์​ APK ได้ และ Android App Store เหล่านี้ก็จะใช้ไฟล์​ AAB ที่ว่านี้เพื่อสร้างเป็น Signed APK เพื่อให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดอีกทีหนึ่ง

Android App Store บางแห่งใช้ไฟล์ APK ได้อย่างเดียว บางแห่งรองรับไฟล์​​ APK หรือไฟล์​ AAB ก็ได้ แต่บน Google Play จะต้องใช้ไฟล์ AAB เท่านั้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

สำหรับเรื่องราวของไฟล์​ AAB สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ Android App Bundle — ตอนที่ 1 รู้จักความสามารถและเบื้องหลังในการทำงาน

Android App Bundle — ตอนที่ 1 รู้จักความสามารถและเบื้องหลังในการทำงาน
วันนี้ขอหยิบเรื่องราวต่างๆของ Android App Bundle เพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้นครับ

และในบทความนี้จะเล่าถึงการ Build Project ให้กลายเป็นไฟล์​ AAB เพื่อส่งขึ้น Google Play หรือ Android App Store กัน

ขั้นตอนการสร้างไฟล์ AAB จะมีอยู่ 2 ขั้นตอนหลักๆคือ

  • สร้าง Signed Keystore (ถ้ามีอยู่แล้วก็ข้ามไปได้เลย)
  • สร้าง Android App Bundle หรือ AAB จากโปรเจคแอนดรอยด์ของเรา

สร้าง Signed Keystore

ในการ Build Project ให้เป็น AAB ทุกๆครั้งจะต้องใช้ไฟล์ที่เรียกกันว่า Signed Keystore ที่เป็นเสมือนกุญแจประจำตัวของนักพัฒนา สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับ Keystore ได้ใน รู้จักกับ Keystore และ Debug/Signed Keystore

รู้จักกับ Keystore และ Debug/Signed Keystore
วันนี้ขอหยิบเรื่อง Keystore มาเล่าสู่กันฟังเล่นๆเสียหน่อย เพราะ Keystore นั้นเป็นหนึ่งในพื้นฐานที่นักพัฒนาควรจะรู้จักไว้นะ

ถ้ามีไฟล์ Signed Keystore อยู่แล้ว ก็สามารถใช้ Keystore อันเดิมได้เลย แต่ถ้ายังไม่เคยสร้างมาก่อนให้อ่านขั้นตอนการสร้าง Signed Keystore ได้ที่ วิธีการสร้าง Keystore บน Android Studio

วิธีการสร้าง Keystore บน Android Studio
บทความนี้ก็จะเป็นวิธีการสร้าง Keystore ใน Android Studio เพื่อใช้ในการ Export โปรเจคแอนดรอยด์ของผู้ที่หลงเข้ามาอ่านให้กลายเป็นไฟล์ APK ซึ่งเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่จะต้องทำ App Bundle หรือ APK เพื่ออัปโหลดขึ้น Google Play Store

สร้าง Android App Bundle หรือ AAB

ในการสร้าง AAB จะมีขั้นตอนดังนี้

  • เลือกที่ Build > Generate Signed Bundle / APK...
  • ให้เลือกเป็น Android App Bundle
  • หน้าต่าง Generate Signed Bundle or APK จะโผล่ขึ้นมา เลือก Module ที่จะสร้างเป็นไฟล์ AAB (โดยปกติจะชื่อ app) และเลือก Keystore เพื่อใส่รหัสผ่านของ Keystore, Alias, Password ของ Alias ให้ถูกต้อง สามารถติ๊กเลือกที่ช่อง Remember passwords เพื่อให้จำรหัสผ่านสำหรับครั้งหน้าได้ แต่ไม่ต้องติ๊กเลือกช่อง Export encrypted key for enrolling published apps in Google Play App Signing แล้วให้กดปุ่ม Next
  • เลือก Destination Folder สำหรับ Path ที่ต้องการสร้างไฟล์ AAB (ใช้ Default Path ก็ได้) ส่วน Build Type เลือกเป็น release แล้วกดปุ่ม Finish เพื่อเริ่มทำการสร้าง AAB
  • รอจนกว่าจะสร้างไฟล์ AAB เสร็จ โดยจะมีข้อความแจ้งในหน้าต่าง Event Log และสามารถกดเปิด Path ดังกล่าวด้วยการกดที่ locate ในนี้ได้เลย
  • เพียงเท่านี้ก็จะได้ไฟล์ AAB ที่พร้อมจะเอาขึ้น Google Play แล้ว!

เกี่ยวกับ Build Type

ตอนที่เลือก Build Type จะมาจากการกำหนดไว้ใน Gradle ซึ่งผู้ที่หลงเข้ามาอ่านที่เป็นมือใหม่นั้นไม่จำเป็นต้องกำหนดอะไร ให้ใช้ค่าเริ่มต้นไปก่อน

โดยใน Gradle สามารถตั้งค่าการ Export ได้และสามารถกำหนดแยกเป็น Build Type ต่าง ๆ ตามต้องการได้

ทำให้ผู้ที่หลงเข้ามาอ่านสามารถสร้าง Build Type ต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อ Export ไฟล์ AAB ในแบบที่แตกต่างกันได้นั่นเอง

เมื่อได้ไฟล์ AAB แล้ว แต่ยังไม่รู้วิธีนำขึ้น Google Play ให้ดูต่อที่บทความนี้เลย การส่งแอปขึ้น Google Play

การส่งแอปขึ้น Google Play
เมื่อผู้ที่หลงเข้ามาอ่านได้พัฒนาแอปของตัวเองจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ในขั้นตอนต่อไปก็ถึงเวลาของการส่งแอปขึ้น Google Play กันแล้ว